
ความคืบหน้ากรณีคนร้าย เป็นชายไม่ทราบสัญชาติ ก่อเหตุลวงสาวไทย จากเลียบชายหาดเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ให้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ ก่อนจะพาขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวเข้าป่า ใช้อาวุธจี้ขู่บังคับ แล้วลงมือก่อเหตุข่มขืน และ ชิงทรัพย์ คืนเดียวมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ 3 ราย รายแรกอายุ 20 ปี , รายที่ 2 อายุ 17 ปี ทั้ง 2 รายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ส่วนรายสุดท้าย ผู้ก่อเหตุลงมือไม่สำเร็จ เพราะเหยื่อหญิงสาวหลบหนีออกมาได้ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 20 พฤษภาคม ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
มีความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้เวลา 15.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก. , พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง.ผกก.สส. ,พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่แกะรอย จากภาพจากกล้องวง รวมถึงการสืบหาตำหนิรูปพรรณของคนร้าย และ รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ จนพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำแดง ทะเบียน งขค 372 ชลบุรี ซึ่งหลังก่อเหตุ ได้ขี่หลบหนีมุ่งหน้าออกถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปยัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวน แกะรอยรถจักรยานยนต์ของคนร้าย จนสามารถไปควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ภายห้องเช่า ย่านซอยโรงกรอง หนองขาม ม.5 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี (ห่างจากเมืองพัทยา 45 กม.) ทราบชื่อ คือ นายติง หงุ่ย อายุ 27 ปี อาชีพพ่อค้าโรตี ชาวเมียนมาร์ โดยระหว่างที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว นายติง ให้การปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ยอมจำนนต่อหลักฐาน เมื่อตำรวจ ค้นเจอกระเป๋าสะพายของ ของนางสาวนก นามสมมุติ อายุ 20 ปี เหยื่อผู้เสียหายรายแรก ภายในมี เอกสาร และ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ภายในห้อง ของนายติง ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับ พาไปยึดรถจักรยานยนต์ ที่ใช้การก่อเหตุ จอดอยู่หน้าห้องเช่า ก่อนจะควบคุมตัวนายติง มาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา โดยระหว่างที่ควบคุมตัว เจ้าตัวมีอาการเครียด พร้อมกับมีการเสนอเงิน 15,000 บาท ให้กับตำรวจเพื่อแลกกับอิสรภาพ โดยอ้างว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฝ่ายหญิงเป็นผู้สมยอมเอง เพราะมีการตกลงซื้อบริการทางเพศ
ภายหลังมาถึงโรงพัก ตำรวจมีการเค้นสอบ นายติง นานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่เจ้าตัว ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่า ตนเองมีอาชีพ ขายโรตีอยู่ในเขตพื้นที่ ศรีราชา โดยมาทำงานหากินอยู่ในประเทศไทยได้ 7-8 ปี ปัจจุบันภรรยากำลังตั้งท้อง จึงเกิดอารมณ์เปลี่ยว จึงขี่รถจักรยานยนต์จากอำเภอศรีราชา มุ่งหน้ามายัง ชายหาด เมืองพัทยา เพื่อมาหาซื้อบริการทางเพศ จนมาเจอ สาวรายแรก มีการตกลงราคากัน ในราคา 2,000 บาท แต่ด้วยความที่ไม่มีเงินไปเปิดโรงแรม จึงพาหญิงสาวเข้าป่า แต่หลังเสร็จกิจ หญิงสาวไปหนีไป โดยลืมทิ้งกระเป๋าไว้ที่รถ ส่วนรายที่ 2 ( ผู้เสียหายอายุ 17 ปี ) มีการตกลงราคาเช่นเดียวกัน แต่พอพาขึ้นนั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าไปยังที่เปลี่ยว ไม่มีผู้คน หญิงสาวดังกล่าวกลับไม่ยอมแล้วเดินหนีไป โดยไม่ทันได้มีการมีอะไรกัน ส่วนรายที่ 3 ยืนยันว่าไม่มี เพราะตนเองตัดสินใจ ขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักในอำเภอศรีราชา ก่อนจะถูกจับตำรวจตามมาจับกุมได้ดังกล่าว อีกทั้งปฏิเสธว่าไม่มีการใช้อาวุธมีดข่มขู่ผู้เสียหาย หรือ ลงมือชิงทรัพย์ กับผู้เสียหาย
พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า ในคดีนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มีการสั่งการโดยตรง และ กำชับให้ ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา เร่งรัดติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายให้จงได้ เนื่องจากเป็นคดี ที่ประชาชนให้ความสนใจ รวมถึงคนร้ายรายนี้ เป็นบุคคลอันตราย ซึ่งภายหลังได้รับคำสั่ง ชุดสืบสวนมีการออกติดตามและแกะรอย ผู้ก่อเหตุรายนี้อย่างกระชั้นชิด รวมถึงมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในเส้นทางของคนร้ายที่ใช้หลบหนี ไม่ต่ำ 40 ตัว จนได้หลักฐานสำคัญคือทะเบียนรถที่ใช้ในการก่อเหตุ จนเป็นที่มาของการเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แบบคาหนังคาเขา แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักเชื่อในคำให้การของ ชาวเมียนมาร์รายนี้ โดยขอเวลาสอบสวนเพิ่มเติม แต่เบื้องต้น ได้แบ่งออกเป็นการกระทำความผิดออกเป็น 2 กรรม เนื่องจากมีผู้เสียหาย 2 คน โดย ผู้เสียหายอายุ 20 ปี ตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหา “ ข่มขืนกระทำชำเราและชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี” ส่วนผู้เสียหายอายุ 17 ปี อยู่ในระหว่างรอสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ และ อัยการ เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ….