
ระยอง – ความร่วมมือเชิงลึกระหว่างหน่วยข่าวความมั่นคงกับหน่วยปราบปรามยาเสพติด นำไปสู่การจับกุมขบวนการลำเลียงยาไอซ์รายใหญ่ หลังหน่วยข่าวความมั่นคงได้สืบสวนทางลับมาอย่างต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ ก่อนส่งข้อมูลให้กับ สำนักงาน ป.ป.ส. และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการวางแผนจับกุม
เมื่อเวลาเที่ยงคืน ย่างเข้าสู่วันที่ 22 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจาก ป.ป.ส. พร้อมหน่วยสนับสนุนได้เข้าตรวจค้นเรือต้องสงสัยบริเวณปากแม่น้ำประแสร์ จังหวัดระยอง โดยอาศัยข้อมูลทางลับที่ได้รับจากหน่วยข่าวความมั่นคง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาบนเรือได้ทั้งหมด 8 คน พร้อมของกลางยาไอซ์ที่บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกกันน้ำ พิมพ์สัญลักษณ์ “ถุงข้าวโพด” น้ำหนักรวมกว่า 1,500 กิโลกรัม มูลค่าภายในประเทศกว่า 300 ล้านบาท และหากหลุดรอดส่งออกไปต่างประเทศ คาดว่ามูลค่าพุ่งสูงถึง 1,500 ล้านบาท
ต่อมาในเวลา 11.30 น. ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 8 รายที่สถานีตำรวจภูธรปากน้ำประแส เพื่อเตรียมขยายผลไปยังผู้บงการและเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลัง
จากการสอบสวนเบื้องต้น “ไต๋เรือ” ให้การว่าได้รับการว่าจ้างให้นำเรือไปรับของบริเวณน่านน้ำสากล โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นยาเสพติด ส่วนลูกเรืออีก 7 คน ก็ให้การในลักษณะคล้ายกันว่าเป็นเพียงแรงงานรับจ้างทั่วไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม
ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า คดีนี้ถือเป็น “คดีพิเศษ” ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและรอบคอบ โดยจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมทั้งติดตามตรวจสอบเจ้าของเรือ และพาหนะที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และรื้อโครงข่ายลำเลียงยาเสพติดข้ามชาติให้ถึงต้นตอ
ความสำเร็จในคดีนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการทำงานเชิงรุกของหน่วยข่าวความมั่นคง ที่สามารถสะกัดกั้นยาเสพติดได้ตั้งแต่ต้นทาง ก่อนที่จะหลุดรอดออกนอกประเทศและสร้างหายนะให้กับสังคมโลก