
ตำรวจพัทยาเดินหน้าจับแก็งค์คอลเซนเตอร์อย่างต่อเนื่องจริงจัง พบผู้เสียหายชาวเชียงรายเพิ่งโอนเงินหลักแสนเข้าบัญชี
………….
ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนตาดำๆ การกระทำของคนไทยด้วยกันในการร่วมกับแก็งค์จีนดำก็ยังอาละวาด เรายังคงยืนหยัดจับกุมนำตัวดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง
ตร.พัทยาผนึก War Room! ทลายแก๊งฟอกเงินข้ามชาติ ล็อกคาห้างฯ 3 ผู้ต้องหา ยึดเงินสดเกือบครึ่งล้าน!
พัทยา – เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 15.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ (ศปชก.) สภ.เมืองพัทยา ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้รับการประสานงานจาก War Room ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ให้ติดตามกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะมาถอนเงินสดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ปฏิบัติการลับ ล่าแก๊งบัญชีม้ากลางห้างดัง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปชก.สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี พัทยาใต้ และพบหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกจากธนาคาร ซึ่งตรงตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง หญิงสาวรายนี้ได้ไปสมทบกับหญิงอีกคน และมีชายอีกคนรออยู่ในรถยนต์เชฟโรเลตสีน้ำตาล ทะเบียน ขฉ 2232 ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น และพบของกลางหลายรายการในกระเป๋าสะพายของหญิงคนแรก ได้แก่ สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม โทรศัพท์ 3 เครื่อง และเงินสดกว่า 450,000 บาท
ผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 ราย ทราบชื่อคือ
น.ส.พิไลวรรณ (ใหม่) อายุ 37 ปี,
น.ส.วราภรณ์ (อุ้ม) อายุ 32 ปี,
และ นายวันชนะ (มีน) อายุ 20 ปี
คำสารภาพเปิดโปงเครือข่าย
จากการสอบสวน น.ส.พิไลวรรณ ยอมรับว่าเป็นเจ้าของ “บัญชีม้า” และเพิ่งถอนเงินครั้งแรกจำนวน 333,000 บาท
เพื่อส่งต่อให้เครือข่าย โดยได้ค่าจ้าง 13,000 บาท ก่อนจะถูกจับกุมขณะกำลังจะถอนเงินครั้งที่สอง
ส่วน น.ส.วราภรณ์ ทำหน้าที่ควบคุมการเบิกถอน
และระบุว่านายวันชนะเป็นผู้ประสานงานกับกลุ่มชาวจีน
ด้านนายวันชนะยอมรับว่าทำหน้าที่ขับรถและจัดหาบัญชีม้ามานานกว่า 3 เดือน โดยได้รับค่าจ้างวันละ 5,000 บาท
การจับกุมครั้งนี้ยังพบว่า เงินในบัญชีม้ามาจากผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง และมีการแจ้งความออนไลน์ไว้ที่ สภ.เมืองเชียงรายด้วย
ตร.ทำงานเชิงรุก! ตัดวงจรอาชญากรรมไซเบอร์
ปฏิบัติการนี้สะท้อนถึงการทำงานเชิงรุกและบูรณาการระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและสถาบันการเงินในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่ง War Room ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้มีการประสานงานกับตำรวจทุกหน่วยเพื่อตัดวงจรการเงินของแก๊งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเข้าไปเป็นบัญชีม้าถือเป็นภัยต่อความมั่นคงและมีโทษสูง
ผู้ที่เกี่ยวข้องในปฏิบัติการครั้งนี้: พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง – ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ – ผกก.สภ.เมืองพัทยา
พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ – รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
พ.ต.อ.วสุรัชย์ ชัยธีราพัฒน์ – รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ – รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา
พ.ต.ท.สุรเดช อิ่มใจ – สว.สส.สภ.เมืองพัทยา
พ.ต.ท.ธเนศน์ แสงหิรัญ – สว.สส.สภ.เมืองพัทยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปชก.สภ.เมืองพัทยา
#ตำรวจพัทยา #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #อาชญากรรมทางเทคโนโลยี #สภเมืองพัทยา
ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ตำรวจภูธรภาค 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ